คนท้องรับประทานยาแก้ไอได้ไหม แม่ท้องท่านใดที่ไม่สบายใจว่าจะรับประทานยาแก้ไอขณะมีครรภ์ได้หรือเปล่า แล้วก็คนท้องไอควรจะรับประทานอะไรถึงจะหาย พวกเราไปค้นหาคำตอบพร้อมเพียงกันเลยจ้ะ
ตอนนี้สภาพภูมิอากาศบ้านพวกเรานั้นผันแปรเป็นว่าเล่น สักครู่ฝนตก ประเดี๋ยวแดดออก กระทั่งแม่ท้องหลายท่านปรับพฤติกรรมไม่ทัน กำเนิดลักษณะของการเจ็บป่วยไข้ได้อย่างง่ายดายบางรายมีลักษณะอาการไอเจ็บคอร่วมด้วย ทำเอาม่าม้ากำเนิดความไม่สบายใจว่าขณะตั้งท้องจะสามารถรับประทานยาแก้ไอประเภทใดได้บ้าง เพื่อไม่ให้ทำให้เกิดผลกระทบต่อลูกน้อยในท้อง รวมทั้งควรจะรับประทานอะไรถึงจะหายไอ วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอพาทุกคนไปไขปัญหากันว่าคนท้องรับประทานยาแก้ไอได้ไหม และก็ควรจะรับประทานยาหรือสมุนไพรแบบใด ก็เลยจะช่วยรักษาอาการไอให้หายเป็นปลิดทิ้งได้บ้าง
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้ยาในระหว่างท้องเป็นสิ่งที่เหล่าว่าที่ม่าม้าควรจะให้ความเอาใจใส่ แล้วก็รอบคอบอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ที่ตั้งท้องในตอนสามเดือนแรก ทั้งนี้ก็เพราะการใช้ยาของแม่มีผลต่อทารกในท้อง เนื่องจากลูกจะรับเอาสารอาหารต่างๆผ่านเกลื่อนกลาดรวมทั้งสายสะดือจากแม่โดยตรง ซึ่งแม้คนท้องรับประทานยาที่ไม่เหมาะสมบางทีอาจเกิดอันตรายแล้วก็อาจจะทำให้ทั้งยังแม่และก็ลูกในท้องเสียชีวิตได้ โดยเหตุนี้ม่าม้าก็เลยควรจะมีแนวทางดูแลตัวเองเมื่อกำเนิดอาการไอ หรือเจ็บคอในตอนมีครรภ์ โดยชี้แนะว่าควรจะกินน้ำอุ่นให้มากมายๆก่อนจ้ะ แต่ว่าถ้าเกิดอาการไอยังไม่ดีขึ้น แม่ก็สามารถรับประทานยาแก้ไอได้ แต่ว่าจะต้องเป็นกรุ๊ปยาดังนี้
1. เด็กซ์โตรมันข้นอร์โทรเฟน (Dextromethorphan)
กรุ๊ปยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของ เด็กซ์โตรมันข้นอร์โทรเฟน (Dextromethorphan) มีฤทธิ์ทุเลาอาการไอแบบไม่มีเสลด (ไอแห้ง) ถ้าเกิดแม่ซื้อยาเองก็พึงสังเกตฉลากให้ชัดแจ้งว่าควรเป็นยาแก้ไอที่ไม่มีส่วนประกอบตัวยาประเภทอื่น ซึ่งโดยส่วนมากเภสัชกรจะจ่ายยาแบบเป็นเม็ดที่มีตัวยา Dextromethorphan 15 มก. มาให้กิน ทีละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง หลังรับประทานอาหาร
2. บรอมเฮ็กซีน (Bromhexine) แล้วก็ อะเซทิลสิสเทอีน (Acetylcysteine)
แม้กระนั้นแม้อาการไอมีเสลดร่วมด้วย ม่าม้ามีครรภ์ก็สามารถรับประทานยาละลายเสลดช่วยได้จ้ะ ซึ่งตัวยาแก้ไอลดเสลดที่ใช้ได้ระหว่างมีท้อง มี 2 อย่าง อย่างเช่น บรอมเฮ็กซีน (Bromhexine) และก็ อะเซทิลสิสเทอีน (Acetylcysteine) ซึ่งจะช่วยลดความหนืดเหนียวของเสลด ทำให้เสลดเหลวตัว ถูกขับออกง่ายดายมากยิ่งขึ้น มีอีกทั้งแบบเป็นเม็ด รวมทั้งรูปแบบน้ำ ซึ่งถ้าเกิดซื้อยาเองก็พึงสังเกตฉลากให้ดีว่าไม่มีแอมโมเนีย หรือ แอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เพราะเหตุว่าบางทีอาจเกิดอันตรายต่อลูกในท้องได้จ้ะ
3. กรุ๊ปยาอม ยาพ่นคอต่างๆ
ถ้าแม่มีครรภ์รู้สึกระคายคอ ก็สามารถรับประทานยาอม หรือใช้ยาพ่นที่ทำให้เปียกคอ และก็แก้อาการคอแห้งผาก ระคายคอได้ ตัวอย่างเช่น ยาอมมายบาสิน สเตร็ปสิล หรือยาพ่นคอ ติดอยู่ไม่โลซาน ซึ่งยากลุ่มนี้เป็นยาออกฤทธิ์เฉพาะที่ ก็เลยใช้ได้ในหญิงมีครรภ์ ทั้งช่วยทุเลาลักษณะของการเจ็บคอ และก็ลดอาการไอจากการระคายเคืองคอเจริญจ้ะ
นอกเหนือจากการรับประทานยาที่มีตัวยาดังที่กล่าวถึงมาแล้วแล้ว การกินยาสมุนไพรแก้ไอก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยรักษาอาการไอรวมทั้งเจ็บคอได้ แถมยังไม่มีอันตรายกว่าการกินยาอีกด้วยนะคะ ดังเช่น มะนาว เอามาคั้นผสมกับน้ำอุ่นแล้วก็เกลือ จิบเป็นประจำหรือเอามาฝานเป็นแว่นบางๆแล้วเอามาอมก็ลดอาการไอเจริญ รวมถึง มะขามป้อม มะขาม มะแว้ง สับปะรด บ๊วย ขิง ฯลฯจ้ะ
วิธีในการดูแลตนเองเมื่อมีลักษณะอาการไอ
นอกเหนือจากการรับประทานยา หรือการกินผัก-ผลไม้ และก็สมุนไพรจะช่วยทุเลาอาการไอได้ในส่วนหนึ่งส่วนใด แม้กระนั้นสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับแม่มีท้อง ก็คือการดูแลตนเองนั่นเองจ้ะ ซึ่งมีแนวทางดังนี้
– นอนพักให้พอเพียง
– รักษาร่างกายให้อบอุ่น ใช้ผ้าที่มีไว้พันคอเพื่อไม่ให้ตอนคอเย็นกระทั่งเหลือเกิน กับอยู่ภายในเขตพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก
– กินน้ำอุ่น หรือน้ำอุ่นผสมมะนาว หรือน้ำดื่มในอุณหภูมิปกติแทนการกินน้ำเย็น รวมทั้งควรจะกินน้ำให้มากมายๆเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
– หรือกินน้ำขิงอุ่นๆผสมน้ำผึ้งมะนาว ช่วยทุเลาลักษณะของการเจ็บคอก้าวหน้า อีกทั้งช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น และก็ช่วยลดอาการอ้วกอ้วกจากการแพ้ท้องอีกด้วย
– ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ครบ 5 กลุ่ม เน้นย้ำรับประทานผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินซีมากมายๆ
– หลบหลีกอาหารพวกที่ทำมาจากการทอดๆมันๆหรือของกินที่มีไขมันมากมาย
การรักษาสุขภาพระหว่างตั้งท้องเกิดเรื่องที่สำคัญมากๆเลยนะคะ แม้กระนั้นบางเวลาพวกเราก็บางทีอาจกำเนิดลักษณะการเจ็บเจ็บไข้นิดๆหน่อยๆได้ อย่างไรแล้วเสนอแนะว่าม่าม้าควรจะหมั่นดูแลตนเองด้วยรับประทานอาหารที่มีสาระ รับประทานผัก-ผลไม้ให้มากมายๆและก็บริหารร่างกายเสมอๆ แต่ว่าดังนี้สำหรับแม่ตั้งท้องท่านใดที่มีลักษณะอาการไอเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน รักษาเช่นไรก็ไม่หายเสียเชิง ก็ควรจะรีบมาเจอหมอเพื่อกระทำการตรวจค้นต้นสายปลายเหตุ พร้อมรักษาได้อย่างถูกจุดเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อตัวม่าม้าแล้วก็ลูกน้อยในท้องจ้ะ
ข้อมูลที่ได้มาจาก : pharmacy.psu.ac.th, si.mahidol.ac.th, siamhealth.net, pobpad.com